เกี่ยวกับขวดพลาสติก |

News & Updates

Archive for 2024

ขวด PET แบบใส: ผลกระทบของแสงแดดและรังสี UV ต่อเครื่องสำอางและสารเคมี

เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลมีความไวต่อปัจจัยต่างๆ จากสภาพแวดล้อม เช่น แสง ความร้อน และอากาศ หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพ คือการสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งสามารถทำให้ส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพภายในผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพและเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ สารบางตัว เช่น วิตามิน (เช่น วิตามิน C) สารต้านอนุมูลอิสระ และสารสกัดจากพืชมีความไวเป็นพิเศษต่อการเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง

ขวด-PET-แบบใส-ผลกระทบของแสงแดดและรังสี-UV

สารที่ไวต่อแสงแดดและรังสี UV

หลายส่วนผสมในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีความไวสูงต่อแสงและรังสี UV ต่อไปนี้คือ 5 สารที่พบได้บ่อยที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่อาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง:

  1. วิตามิน C (Ascorbic Acid): วิตามิน C เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ช่วยลดเลือนริ้วรอยและปรับสีผิวให้กระจ่างใส อย่างไรก็ตาม วิตามิน C เสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับแสงแดดและอากาศ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและกลายเป็นสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
  2. เรตินอล (Retinol): เรตินอลเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิว แต่เมื่อสัมผัสกับแสง UV จะทำให้มันเสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพลง ดังนั้นควรใช้ในเวลากลางคืนหรือบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ให้แสงเข้า
  3. สารสกัดจากชาเขียว (Green Tea Extract): ชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสง UV แต่สารสกัดจากชาเขียวจะเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง UV และอาจสูญเสียคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและปกป้องผิว
  4. น้ำมันหอมระเหยจากส้ม (Citrus Essential Oils): น้ำมันหอมระเหยจากส้ม เช่น น้ำมันจากผลส้มโอและส้ม มีสารที่สามารถทำให้ผิวไวต่อแสงและทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแผลไหม้จากแสงแดด นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ยังเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง
  5. ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide): ไนอาซินาไมด์มีคุณสมบัติในการปรับสีผิวและช่วยลดการระคายเคือง แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสารที่ไวต่อแสง หากผลิตภัณฑ์ที่มีไนอาซินาไมด์ถูกเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ป้องกันแสง UV อย่างเหมาะสม อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

ทำไมขวด PET แบบใสถึงทำลายคุณภาพของเครื่องสำอาง

PET (Polyethylene Terephthalate) เป็นพลาสติกที่นิยมใช้ในการบรรจุเครื่องสำอางเนื่องจากความใสซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคเห็นผลิตภัณฑ์ภายในได้ แต่ความใสนี้กลับมีต้นทุน ขวด PET สามารถให้รังสี UV ซึมผ่านได้ง่าย ซึ่งหมายความว่าเมื่อผลิตภัณฑ์ภายในขวดสัมผัสกับแสงแดด รังสี UV สามารถแทรกซึมเข้าไปในวัสดุและทำให้ส่วนผสมที่ไวต่อแสงเสื่อมสภาพ เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสี เนื้อสัมผัส และคุณภาพโดยรวมของผลิตภัณฑ์ ทำให้ประสิทธิภาพลดลงและอาจเป็นอันตราย

ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีสารรีตินอลหรือวิตามิน C จะเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสง UV ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ลดลงและไม่สามารถปกป้องหรือฟื้นฟูผิวได้ตามที่คาดหวัง นอกจากนี้ น้ำมันธรรมชาติ กลิ่นหอม และส่วนผสมที่ไวต่อการเกิดออกซิเดชันก็สามารถเกิดการเสื่อมสภาพหรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้

ทำไม HDPE และ PP ถึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการบรรจุเครื่องสำอาง

BPE158 ขวดพลาสติก 350cc (7)

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเหล่านี้ ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จึงหันมาใช้พลาสติกทางเลือกเช่น HDPE (High-Density Polyethylene) และ PP (Polypropylene) ซึ่งมีข้อดีหลายประการเมื่อเทียบกับขวด PET ในการปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน

  1. การป้องกันรังสี UV: พลาสติก HDPE และ PP ให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมจากรังสี UV ทั้งสองชนิดมีลักษณะทึบแสงหรือโปร่งแสง ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ การบล็อกรังสี UV จะช่วยปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อแสงและรักษาความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้นานขึ้น
  2. ความทนทานและเสถียรภาพ: HDPE และ PP มีความทนทานและต้านทานการเกิดปฏิกิริยาทางเคมีได้ดี ทำให้เป็นทางเลือกที่มั่นคงในการบรรจุเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันหอมระเหย สารสกัดจากพืช หรือส่วนผสมธรรมชาติที่มีความไวต่อการเกิดออกซิเดชัน วัสดุเหล่านี้ช่วยรักษาคุณภาพและความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์ตลอดอายุการใช้งาน
  3. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: ทั้ง HDPE และ PP เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นเมื่อเทียบกับ PET ซึ่งตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและแบรนด์ที่ต้องการลดการทิ้งขยะพลาสติก
  4. คุ้มค่ากว่า: การปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากการเสื่อมสภาพจะช่วยลดการคืนสินค้า ความไม่พึงพอใจของลูกค้า และสินค้าคงคลังที่เสียหายจากผลิตภัณฑ์ที่เสื่อมสภาพ

เมื่อพูดถึงการบรรจุเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ขวด PET แบบใส แม้ว่าจะได้รับความนิยมจากความสวยงาม แต่กลับทำลายอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสงและรังสี UV ในทางกลับกัน การใช้ภาชนะพลาสติก HDPE และ PP มอบการปกป้องจากรังสี UV ได้ดีกว่า ความทนทาน และประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อม สำหรับแบรนด์ที่ต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและรักษาประสิทธิภาพ การลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกัน UV เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและจำเป็น

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

สูตรครีมให้ความชุ่มชื้นแบบออร์แกนิก (Organic Moisturizing Cream Recipe)

สูตรครีมนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส่วนผสม 100% ธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ด้วยการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว และว่านหางจระเข้ ทำให้สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยหรือสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ความโดดเด่นของสูตรนี้คือเหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวธรรมดา ผิวแห้ง หรือแม้แต่ผิวบอบบางแพ้ง่าย เนื่องจากไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนหรือระคายเคือง นอกจากนี้ ส่วนผสมอย่างเจลว่านหางจระเข้ยังช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในระดับลึก โดยที่ผิวสามารถหายใจได้ตามธรรมชาติ

สูตรครีมบำรุงผิวออร์แกนิก

อีกหนึ่งจุดเด่นของครีมสูตรนี้คือการปรับแต่งกลิ่นได้ตามชอบด้วยน้ำมันหอมระเหย เช่น ลาเวนเดอร์ กุหลาบ หรือคาโมมายล์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและมอบประสบการณ์การดูแลผิวที่หรูหราและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากธรรมชาติ

การใช้ครีมสูตรนี้ช่วยให้ผิวของคุณเนียนนุ่ม สุขภาพดี และเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังตอบโจทย์การดูแลผิวในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่มอบผลลัพธ์ยอดเยี่ยมโดยปราศจากสารเคมีที่ไม่จำเป็น

การรวมส่วนผสมทั้งหมดนี้ในครีมให้ความชุ่มชื้นแบบออร์แกนิกช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก พร้อมป้องกันปัญหาผิวและทำให้ผิวเนียนนุ่มและสุขภาพดีขึ้นทุกวัน!

ส่วนผสมสูตรครีมบำรุงผิวออร์แกนิก:

  1. เชียบัตเตอร์ (120 มิลลิลิตร) เชียบัตเตอร์เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและลดความเสียหายจากแสงแดด นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก เหมาะสำหรับผิวแห้งหรือผิวที่ต้องการการฟื้นฟู
  2. น้ำมันมะพร้าว (60 มิลลิลิตร) น้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว มีกรดลอริก (Lauric Acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ทำให้เหมาะสำหรับการดูแลผิวที่เป็นสิวหรือระคายเคืองง่าย
  3. น้ำมันอัลมอนด์หวาน (30 มิลลิลิตร) น้ำมันอัลมอนด์หวานมีวิตามิน E สูง ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวและลดเลือนริ้วรอย นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบและทำให้ผิวเนียนนุ่ม เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
  4. ขี้ผึ้งธรรมชาติ (15 กรัม, ขูดฝอย) ขี้ผึ้งธรรมชาติช่วยสร้างเกราะป้องกันบนผิวหนังเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว เหมาะสำหรับการบำรุงผิวที่แห้งเสีย ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มและเรียบเนียน
  5. เจลว่านหางจระเข้ (30 มิลลิลิตร) ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดรอยแดงจากแสงแดดหรือการระคายเคือง
  6. น้ำมันวิตามิน E (5 หยด, ไม่จำเป็น) วิตามิน E เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและลดเลือนริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและดูสุขภาพดี
  7. น้ำมันหอมระเหย (5-10 หยด, ไม่จำเป็น) เพิ่มกลิ่นหอม เช่น ลาเวนเดอร์ กุหลาบ หรือคาโมมายล์ เพื่อความผ่อนคลายและบำรุงเพิ่มเติม

กระปุก-250กรัม

วิธีทำสูตรครีมบำรุงผิวออร์แกนิก:

  1. ละลายส่วนผสมหลัก: ใช้หม้อต้มสองชั้นหรือชามทนความร้อน ละลายเชียบัตเตอร์ น้ำมันมะพร้าว และขี้ผึ้งบนไฟอ่อน คนเบา ๆ จนละลายหมด
  2. ปล่อยให้เย็น: ยกออกจากความร้อนและปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงเล็กน้อยจนเริ่มข้น
  3. ใส่ส่วนผสมที่เป็นของเหลว: ใส่เจลว่านหางจระเข้ น้ำมันอัลมอนด์หวาน น้ำมันวิตามิน E และน้ำมันหอมระเหย (ถ้ามี) แล้วคนให้เข้ากัน
  4. ตีให้เนื้อเนียน: ใช้เครื่องตีมือหรือตะกร้อมือตีส่วนผสมจนได้เนื้อครีมที่เนียนและฟู
  5. เก็บในภาชนะสะอาด: เทครีมลงในขวดแก้วหรือภาชนะที่สะอาดและมีฝาปิด เก็บในที่เย็นและแห้ง
วิธีใช้สูตรครีมบำรุงผิวออร์แกนิก:
  • ใช้ทาบนผิวที่สะอาดในปริมาณเล็กน้อย นวดเบา ๆ จนซึมเข้าสู่ผิว
  • ใช้ได้กับใบหน้า มือ หรือร่างกายเพื่อเพิ่มความนุ่มและชุ่มชื้น

สูตรจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ควรทดสอบการแพ้โดยทาเล็กน้อยที่บริเวณผิวหนังเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสะอาด รวมถึงอุปกรณ์และภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว เก็บโลชั่นในที่แห้งและเย็น และใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์ (หรือ 2-3 สัปดาห์หากแช่เย็น) เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย หากเกิดการระคายเคืองให้หยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาผิวหนังบางประการ

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

สูตรโลชั่นไวท์เทนนิ่ง สมุนไพรไทย (Whitening Lotion Recipe with Thai Herbs)

โลชั่นไวท์เทนนิ่งจากมะกรูดและขมิ้น: สูตรสมุนไพรไทยออร์แกนิกสำหรับการดูแลผิว

โลชั่นไวท์เทนนิ่งสูตรนี้ผสมผสานประโยชน์ที่ทรงพลังของสมุนไพรไทยแบบดั้งเดิม เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยมีส่วนผสมของมะกรูดและขมิ้นที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยปรับผิวให้สว่างใส โลชั่นนี้ยังเพิ่มความชุ่มชื้นด้วยน้ำมันมะพร้าวและว่านหางจระเข้ ทำให้เหมาะสำหรับการฟื้นฟูและบำรุงผิวอย่างล้ำลึก

สูตรโลชั่นไวท์เทนนิ่ง สมุนไพรไทย

ส่วนผสมสูตรโลชั่นไวท์เทนนิ่ง สมุนไพรไทย:

  • น้ำมันมะพร้าว 1/2 ถ้วย (หรือน้ำมันชนิดอื่นตามที่คุณเลือก): น้ำมันมะพร้าวให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวนุ่มนวลและช่วยให้ส่วนผสมอื่น ๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น
  • ผิวมะกรูดหรือมะกรูดคั้นน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ: มะกรูดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวแบบไทย ช่วยปรับสีผิวให้สว่างและมีกลิ่นหอมสดชื่น
  • ผงขมิ้น 1 ช้อนชา (ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ): ขมิ้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดจุดด่างดำและการอักเสบ แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงของการเปื้อนสีผิว
  • น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ 10 หยด (ไม่จำเป็น): น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่น มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
  • เจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ: ว่านหางจระเข้ช่วยให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว

วิธีทำสูตรโลชั่นไวท์เทนนิ่ง สมุนไพรไทย:

  1. ละลายน้ำมันมะพร้าว: หากน้ำมันมะพร้าวแข็งตัว ควรละลายให้เป็นของเหลวก่อน เพื่อให้ง่ายต่อการผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ
  2. ใส่มะกรูด: ใส่ผิวมะกรูดหรือมะกรูดคั้นน้ำลงในน้ำมันมะพร้าวที่ละลายแล้ว ผสมให้เข้ากันเพื่อให้น้ำมันซึมซับกลิ่นและคุณประโยชน์ของมะกรูด
  3. ผสมขมิ้น: เติมผงขมิ้นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ระวังการใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อป้องกันการเปื้อนสีผิว
  4. ใส่น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ (ถ้ามี): เติมน้ำมันหอมระเหยตะไคร้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความผ่อนคลาย
  5. เติมเจลว่านหางจระเข้: ใส่เจลว่านหางจระเข้และผสมให้เนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
  6. เก็บและบรรจุ: เทโลชั่นลงในภาชนะที่สะอาดและปิดฝาให้แน่นเพื่อคงความสดใหม่

ขวดปั๊มโลชั่น-450ml

วิธีการใช้สูตรโลชั่นไวท์เทนนิ่ง สมุนไพรไทย:

  • เวลาใช้: ใช้โลชั่นนี้ทาผิววันละครั้ง โดยเฉพาะในตอนเย็น
  • วิธีใช้: ทาโลชั่นลงบนผิวที่สะอาดและแห้ง แล้วนวดเบา ๆ ให้ซึมเข้าสู่ผิว
  • คำเตือน: เนื่องจากขมิ้นอาจทำให้เปื้อนผิวหรือเสื้อผ้า ควรใช้ในปริมาณเล็กน้อยและหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผ้าสีอ่อน

ประโยชน์:

  • ปรับผิวกระจ่างใส: มะกรูดและขมิ้นช่วยลดจุดด่างดำและทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้น
  • ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลม: น้ำมันมะพร้าวและว่านหางจระเข้ช่วยให้ความชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
  • ผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอม: น้ำมันหอมระเหยตะไคร้ให้กลิ่นหอมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการดูแลผิวในช่วงเย็น

สูตรโลชั่นนี้ช่วยให้ผิวของคุณนุ่มนวลและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมจากสมุนไพรไทยที่ทรงคุณค่า!

สูตรจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ควรทดสอบการแพ้โดยทาเล็กน้อยที่บริเวณผิวหนังเพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่ ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสะอาด รวมถึงอุปกรณ์และภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว เก็บโลชั่นในที่แห้งและเย็น และใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์ (หรือ 2-3 สัปดาห์หากแช่เย็น) เนื่องจากไม่มีสารกันเสีย หากเกิดการระคายเคืองให้หยุดใช้ทันที และปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาผิวหนังบางประการ

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

บรรจุภัณฑ์อาหาร บรรจุภัณฑ์พลาสติก

บรรจุภัณฑ์พลาสติก: คุณสมบัติและการใช้งานที่หลากหลาย

ในปัจจุบันบรรจุภัณฑ์พลาสติกถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความหลากหลายของคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ พลาสติกแต่ละชนิดถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเพื่อรองรับความต้องการเฉพาะทาง โดยพลาสติกสามารถจำแนกตามความหนาแน่นของโมเลกุลและคุณสมบัติพิเศษ เช่น พลาสติก PE (Polyethylene) ซึ่งแบ่งออกเป็นหลายประเภท ได้แก่ LLDPE, LDPE, MDPE และ HDPE โดยพลาสติกแต่ละประเภทสามารถพัฒนาและปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะด้าน ผ่านกระบวนการผลิตเฉพาะ เช่น การปรับแต่งโครงสร้างโมเลกุลหรือการผสมกับสารเคมีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่น PP และ OPP

ขวดยา-และ-อาหารเสริม

(1) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิเอทิลีน (Polyethylene – PE)

กระปุก-PE-1000ml

พลาสติก PE ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเนื่องจากมีต้นทุนการผลิตต่ำและมีคุณสมบัติที่หลากหลาย กระบวนการผลิตเกิดจากการทำปฏิกิริยากับก๊าซเอทิลีนภายใต้ความดันและอุณหภูมิสูง ทำให้ได้ PE ที่มีความหนาแน่นแตกต่างกัน ได้แก่:

  • LDPE (Low Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นต่ำ มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฟิล์มหด ฟิล์มยืด ขวดน้ำ และฝาขวด มีคุณสมบัติทนต่อการฉีกขาดและป้องกันความชื้นได้ดี
  • MDPE (Medium Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นปานกลาง มีความทนทาน เหมาะสำหรับถุงที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
  • HDPE (High Density Polyethylene): พลาสติกความหนาแน่นสูง มีความแข็งแรง เหมาะสำหรับขวดและฟิล์มที่ต้องการการป้องกันจากการซึมผ่านของก๊าซ

(2) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิโพรพิลีน (Polypropylene – PP)

ขวดซอสฝาแหลม-PP-ทนความร้อน

PP เป็นพลาสติกที่นิยมใช้ในการผลิตถุงร้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ใสและสามารถทนความชื้นได้ดี จึงเหมาะสำหรับบรรจุอาหารที่ต้องการเก็บรักษาความร้อน เช่น ซองบรรจุอาหารร้อน ซองบรรจุขนม และอาหารแห้ง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติทนความร้อนสูง ทำให้สามารถผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(3) บรรจุภัณฑ์อาหารโพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (Polyethylene Terephthalate – PET)

PET ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มอัดลม เช่น ขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำดื่ม ด้วยความใสแวววาวและความแข็งแรงสูง นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ซองยืดได้สำหรับผลไม้แห้งและช็อกโกแลต ซึ่งต้องการความแข็งแรงและความสวยงามในการจัดเก็บ

ความหลากหลายของบรรจุภัณฑ์พลาสติก

บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ถุงร้อนที่ใช้บรรจุอาหารไปจนถึงขวดเครื่องดื่มที่ต้องการความทนทานและปลอดภัยในการใช้งาน การเลือกใช้พลาสติกชนิดต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ขวดปั๊มพลาสติก

ขวดปั๊มพลาสติกราคาขายส่ง

ขวดปั๊มพลาสติกราคาขายส่งเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่ต้องการบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ขวดปั๊มเหล่านี้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ด้วยความหลากหลายของขนาดและสีที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละแบรนด์ การสั่งซื้อในปริมาณมากยิ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้กับธุรกิจ พร้อมมั่นใจในคุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสถานการณ์

ขวดปั๊ม

ขวดปั๊มพลาสติกคุณภาพสูง

ขวดปั๊มของเราผลิตจากวัสดุที่ได้มาตรฐานและสามารถสั่งทำสีได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขวดปั๊มสีทึบเพื่อป้องกันแสงแดดหรือขวดปั๊มแบบใสที่ช่วยให้เห็นผลิตภัณฑ์ภายในได้อย่างชัดเจน เรามีความยืดหยุ่นในการออกแบบเพื่อให้ตรงกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ของคุณ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นและแตกต่าง

ขวดปั๊มมูส

การใช้งานแนะนำสำหรับขวดปั๊มพลาสติก

ขวดปั๊มพลาสติกของเรามีหลากหลายรูปแบบและเหมาะกับการใช้งานในหลายประเภทผลิตภัณฑ์ เช่น:

  • ขวดปั๊มสำหรับสบู่
  • ขวดปั๊มแชมพูและครีมนวดผม
  • ขวดปั๊มสำหรับเครื่องสำอางและเซรั่มบำรุงผิว
  • ขวดปั๊มสำหรับโทนเนอร์และโลชั่น
  • ขวดปั๊มครีมบำรุงผิวและครีมรักษาผิว
  • ขวดปั๊มสำหรับผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมและน้ำยาเปลี่ยนสีผม
  • ขวดปั๊มน้ำยาบ้วนปากและยาทาเล็บ
  • ขวดปั๊มสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามิน
  • ขวดปั๊มสำหรับสารเคมีและผลิตภัณฑ์ทั่วไป

เงื่อนไขการสั่งซื้อขวดปั๊ม
สำหรับการสั่งซื้อขวดปั๊มในจำนวน 5,000 ชิ้นขึ้นไป เรามีราคาพิเศษและข้อเสนอส่วนลดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อเราเพื่อขอข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับการสั่งผลิต

ขนาดขวดปั๊มที่มีให้เลือก
เรามีขวดปั๊มพลาสติกหลากหลายขนาดตั้งแต่ 30cc – 1000cc เพื่อให้ตรงกับความต้องการในการใช้งานของคุณ

เลือกขวดปั๊มที่เหมาะสมกับแบรนด์ของคุณเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณวันนี้!

Showroom2

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขวดปั๊ม

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

 

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง: การเลือกให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ

ในอุตสาหกรรมความงาม การเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ นอกจากการปกป้องผลิตภัณฑ์จากสิ่งแวดล้อมภายนอกแล้ว ยังช่วยสร้างความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคอีกด้วย บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางมีหลายประเภท เช่น กระปุก ขวด หลอด และขวดปั๊ม ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและเหมาะกับลักษณะผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป

ขวดเครื่องสำอาง 100ml

ประเภทของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่นิยมใช้

  • กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
    กระปุกเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความหนืดและต้องการความสะดวกในการใช้งาน เช่น ครีมบำรุงผิว ลิปสติก และแป้ง กระปุกช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่าย และมีความสะดวกในการพกพา
  • ขวดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
    ขวดเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณมาก เช่น โลชั่น ครีมบำรุงผิว และเมคอัพ ขวดมีหลากหลายรูปทรงและขนาด และสามารถเลือกใช้ฝาปั๊มหรือฝาเปิดได้ตามลักษณะการใช้งานของผลิตภัณฑ์
  • หลอดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง
    หลอดเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวกในการบีบ เช่น ครีมกันแดดหรือครีมบำรุงผิว หลอดสามารถป้องกันการปนเปื้อนได้ดี และช่วยควบคุมปริมาณการใช้ได้อย่างสะดวก
  • ขวดปั๊มสูญญากาศ
    ขวดประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์จากการสัมผัสกับอากาศและแสง ช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เหมาะสำหรับเซรั่มหรือครีมที่มีความต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ
  • หลอดอะลูมิเนียม
    หลอดอะลูมิเนียมมีความทนทานและป้องกันการซึมผ่านของอากาศได้ดี เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการปกป้องจากออกซิเจน เช่น ครีมบำรุงผิวที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ

Showroom2

วิธีการเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางให้เหมาะสม

การเลือกบรรจุภัณฑ์ควรพิจารณาจากลักษณะและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ เช่น หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อแสงและอากาศ ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถป้องกันได้ดี เช่น ขวดปั๊มสูญญากาศหรือหลอดอะลูมิเนียม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้บ่อย กระปุกหรือขวดจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานและยืดอายุของผลิตภัณฑ์ได้อย่างดี

กระปุกครีมเครื่องสำอางและบรรจุภัณฑ์ที่น่าสนใจ

กระปุกครีมเครื่องสำอาง

การเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มมูลค่าและความน่าสนใจในตลาดได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะเลือกกระปุก ขวด หลอด หรือขวดปั๊ม อย่าลืมคำนึงถึงคุณสมบัติและประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของคุณได้รับการตอบรับที่ดีที่สุดในตลาดความงาม

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

การเลือกชนิดพลาสติกสำหรับขวดพลาสติก

การเลือกชนิดพลาสติกสำหรับขวดพลาสติก: ประโยชน์และความเหมาะสมสำหรับการใช้งาน

พลาสติกเป็นวัสดุที่มีความหลากหลายและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในด้านบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยเก็บรักษาสินค้าและนำส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาดูชนิดพลาสติกที่ใช้ในการผลิตขวดพลาสติกที่นิยมในตลาดปัจจุบัน เพื่อการเลือกใช้งานที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท

ขวดพลาสติก HDPE (High-Density Polyethylene) HDPE เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการแตกหรือฉีกขาด นิยมใช้ในขวดสำหรับบรรจุของเหลวที่มีความหนืด เช่น น้ำมันสำหรับอาหาร น้ำยาล้างจาน น้ำยาทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ต้องการการเก็บรักษาในระยะยาว HDPE มีลักษณะผิวเรียบและการปิดผนึกที่ดีเยี่ยม ช่วยให้คงสภาพของเหลวได้อย่างดี

กระปุก-500กรัม-สีครีม-และ-สีเทา

ขวดพลาสติก PP (Polypropylene) พลาสติก PP มีความทนทานต่อความร้อนและสารเคมีสูง จึงเหมาะสำหรับการผลิตขวดที่ใช้ในบ้านเรือน เช่น ขวดสำหรับน้ำยาทำความสะอาด ขวดน้ำยาล้างจาน และขวดเครื่องสำอางต่าง ๆ นอกจากนี้ ขวดที่ผลิตจาก PP มักมีความทนทานและสามารถปิดผนึกได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

ขวดซอสฝาแหลม-PP-ทนความร้อน

ขวดพลาสติก LDPE (Low-Density Polyethylene) LDPE มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น เหมาะสำหรับขวดที่มีการบีบหรือรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น ขวดแชมพู ขวดสินค้าสำหรับเด็ก หรือขวดน้ำยาล้างมือ ขวดพลาสติกจาก LDPE มีความนุ่มนวลในการจับและใช้งาน สะดวกต่อการบีบจ่ายเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมา

หลอดเจล 30cc

การเลือกพลาสติกให้เหมาะกับการใช้งาน การเลือกพลาสติกที่เหมาะสมสำหรับขวดบรรจุภัณฑ์นั้นขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าและการใช้งาน เช่น หากต้องการบรรจุผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีลักษณะเป็นของเหลวและต้องการความโปร่งใส อาจเลือกใช้ PET หรือ HDPE ส่วนการบรรจุสินค้าที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน เช่น สารเคมีหรือของเหลวหนืด HDPE และ PP จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด การเลือกใช้พลาสติกที่ถูกต้องจะช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

ถ้วยตวง 30ml 30มล.

จำหน่ายถ้วยตวง ถ้วยวัด และถ้วยตรวจวัดคุณภาพสูง

ถ้วยตวงพลาสติก ใช้สำหรับงานหลากหลายประเภท เช่น การตวงยา การตวงเคมี การตวงของเหลว การตวงผง และการตวงอาหาร รวมถึงการใช้งานกับนมผงทารก น้ำยาทำความสะอาด และแป้งเด็ก เพื่อความแม่นยำและสะดวกสบายในการใช้งานทุกวัน

ถ้วยตวง 30ml

ถ้วยตวงขนาด 30 มล. ทำจากพลาสติกโพลีโพรพิลีน (PP) คุณภาพสูง มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้:

  • ความทนทานสูง: พลาสติก PP มีความแข็งแรงและทนทานต่อการแตกร้าว แม้จะหล่นหรือได้รับแรงกระแทก ถ้วยตวงนี้จึงมีอายุการใช้งานยาวนานและใช้งานได้อย่างมั่นใจ
  • ทนต่อสารเคมี: สามารถทนต่อกรด ด่าง และตัวทำละลายได้ดี เหมาะสำหรับการตวงสารเคมี ของเหลว หรือส่วนผสมที่ต้องการความปลอดภัย
  • น้ำหนักเบา: ด้วยน้ำหนักที่เบา ถ้วยตวงจึงใช้งานง่ายและสะดวกในการพกพาหรือใช้ในครัวเรือน ห้องทดลอง และสถานที่ทำงานต่าง ๆ
  • ทนต่อความร้อน: PP มีจุดหลอมเหลวสูง ทำให้สามารถตวงของเหลวร้อนได้โดยไม่เปลี่ยนรูป เหมาะสำหรับการใช้กับส่วนผสมที่มีความร้อน
  • ปลอดภัยต่อการใช้งานกับอาหาร: PP เป็นวัสดุที่ปลอดสารพิษ ไม่ปล่อยสารเคมีอันตราย ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้กับอาหาร เครื่องดื่ม และส่วนผสมที่สัมผัสกับมนุษย์
  • ประหยัดและคุ้มค่า: พลาสติก PP ผลิตได้ในราคาที่เหมาะสม ทำให้ถ้วยตวงนี้มีราคาประหยัด แต่ยังคงคุณภาพสูง
  • รีไซเคิลได้: วัสดุ PP สามารถรีไซเคิลได้ ช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

ถ้วยตวงขนาด 30 มล. ที่ทำจากพลาสติก PP จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานในครัวเรือน การทดลอง หรือการใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยความปลอดภัย ความทนทาน และราคาที่คุ้มค่า

บรรจุภัณฑ์พลาสติก ฝา ช้อน ถ้วยตวง

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

ถ้วยตวง 120ml 120มล.

ถ้วยตวง 120ml

ถ้วยตวงขนาด 120 มล. ผลิตจากพลาสติก PP (โพลีโพรพิลีน) คุณภาพสูง ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนและสารเคมี เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการตวงส่วนผสมในอุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน

MP102 ถ้วยตวง 120ml (1)

คุณสมบัติเด่น:

  • ความจุ 120 มล.: ตอบโจทย์ความต้องการในการตวงที่หลากหลาย พร้อมมาตรวัดที่ชัดเจน
  • ผลิตจาก PP คุณภาพสูง: มีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถใช้งานซ้ำได้
  • ทนความร้อนและสารเคมี: เหมาะสำหรับการตวงสารต่าง ๆ โดยไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา
  • ปลอดภัยต่อการใช้งาน: ปราศจากสาร BPA สามารถใช้ในกระบวนการตวงอาหารหรือส่วนผสมอื่น ๆ ได้อย่างมั่นใจ
  • รีไซเคิลได้: PP เป็นพลาสติกที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดปริมาณขยะ

ถ้วยตวงนี้เป็นตัวช่วยที่ดีในการตรวจวัดปริมาณที่แม่นยำ สะดวกต่อการใช้งาน และดูแลรักษาง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในครัวเรือนและเชิงอุตสาหกรรม

บรรจุภัณฑ์พลาสติก ฝา ช้อน ถ้วยตวง

ถ้วยตวงขนาด (Measurement Indicator)

20ml 40ml 60ml 80ml 100ml 120ml

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถ้วยตวง ถ้วยวัด ถ้วยตรวจวัด

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

ขวดพลาสติก 200ml

BPE147 ขวดพลาสติก 200cc (2)

ขวดพลาสติก 200ml / ขวดฝาฟลิบ 200ml

ขวดฝาฟลิบขนาด 200 มล. เป็นบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน เช่น ครีมบำรุงผิว น้ำยาทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนตัวต่าง ๆ ฝาฟลิบช่วยให้การเปิด-ปิดขวดทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยสามารถเปิดฝาเพื่อใช้งานเพียงใช้มือเดียว ช่วยป้องกันการหกเลอะเทอะและการสัมผัสสิ่งสกปรก ขวดฝาฟลิบสามารถเลือกใช้วัสดุพลาสติกคุณภาพดีเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและคงทน และยังสามารถออกแบบให้มีสีหรือรูปลักษณ์ที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย

ขวดปั๊มทรงแบนสี่เหลี่ยม

ขวดปั๊ม 200ml

ขวดปั๊มขนาด 200 มล. เหมาะสำหรับการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ต้องการควบคุมปริมาณการใช้งาน เช่น โลชั่น สบู่ล้างมือ เจลทำความสะอาดมือ และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม การออกแบบหัวปั๊มช่วยให้สะดวกต่อการใช้งาน ช่วยลดการสัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ภายในเพื่อความสะอาดและปลอดภัย ขวดปั๊มสามารถเลือกวัสดุและดีไซน์ได้หลากหลาย เช่น หัวปั๊มแบบล็อกได้เพื่อป้องกันการหกเลอะเทอะหรือขวดที่ออกแบบให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เฉพาะ เช่น ขวดปั๊มโลชั่นผิว

BPE17 ขวดพลาสติก 200ml (11)

ขวดสเปรย์ 200ml

ขวดสเปรย์ขนาด 200 มล. เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เช่น น้ำแร่บำรุงผิว น้ำหอม น้ำยาทำความสะอาด หรือผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ขวดสเปรย์ถูกออกแบบให้ใช้งานสะดวก โดยหัวสเปรย์สามารถกระจายละอองได้ทั่วถึง นอกจากนี้ ขวดสเปรย์ขนาด 200 มล. ยังเหมาะสำหรับการพกพา และสามารถเลือกใช้วัสดุที่แตกต่าง เช่น พลาสติกใสหรือทึบแสง เพื่อเพิ่มความหลากหลายในงานออกแบบและการใช้งาน.

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

พลาสติกชีวภาพคืออะไร What is Bioplastic?

พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) หมายถึงพลาสติกที่ผลิตจากแหล่งชีวมวล เช่น ไขมันพืช น้ำมันพืช แป้งข้าวโพด แป้งถั่ว หรือจุลินทรีย์ต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากพลาสติกทั่วไปที่มาจากปิโตรเลียม พลาสติกชีวภาพเป็นวัสดุที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เนื่องจากกระบวนการผลิตและการย่อยสลายที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งนี้ พลาสติกชีวภาพบางชนิดถูกออกแบบให้สามารถย่อยสลายได้เมื่อสิ้นสุดการใช้งาน ซึ่งเรียกว่าพลาสติกไบโอดีกราเดเบิล (Biodegradable Plastic) การย่อยสลายของพลาสติกชีวภาพสามารถเกิดขึ้นได้ในสภาวะที่มีออกซิเจนหรือไม่มีออกซิเจน ขึ้นอยู่กับวัสดุและกระบวนการผลิต

วัสดุที่ใช้ในการผลิตพลาสติกชีวภาพส่วนใหญ่ ได้แก่ แป้ง เซลลูโลส และไบโอพอลิเมอร์ต่าง ๆ ซึ่งให้ความยืดหยุ่นและความแข็งแรงในระดับที่แตกต่างกัน ตัวอย่างการใช้งานพลาสติกชีวภาพที่พบได้ทั่วไป ได้แก่ วัสดุบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ เครื่องปรุงอาหาร บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร และวัสดุกันความร้อน ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ช้อนตักขนม ไบโอพลาสติก

การใช้งานพลาสติกชีวภาพ

พลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้มีบทบาทสำคัญในสิ่งของที่ใช้ครั้งเดียว เช่น วัสดุบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ในงานบริการ เช่น จาน ชาม ช้อน แก้ว ถ้วย หรือหลอด นอกจากนี้ยังถูกนำไปใช้ในถุงบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร ถาด และภาชนะสำหรับผลไม้ ผัก ไข่ และเนื้อสัตว์ รวมถึงขวดเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ขวดนม หรือแผ่นพลาสติกที่ใช้สำหรับบรรจุผลไม้และผัก

พลาสติกชีวภาพมีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาขยะพลาสติกและสร้างความยั่งยืนในสังคม ด้วยความสามารถในการย่อยสลายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในหลากหลายอุตสาหกรรมในปัจจุบัน.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์

การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์: แนวทางที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ

การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์เป็นแนวทางสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิลถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจลดการใช้ทรัพยากรและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การลดขนาดและน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์มีส่วนสำคัญในการลดต้นทุนด้านวัสดุ พลังงาน และค่าขนส่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมและพอดีกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องบรรจุจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าในทุกขั้นตอนของการจัดจำหน่าย

กระปุกครีม-250กรัม

แนวทางลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์

เป้าหมายหลักของการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์คือการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร ลดการสูญเสีย และส่งเสริมการใช้ซ้ำหรือรีไซเคิลวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การลดขนาดและปริมาณของบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็นช่วยให้เราประหยัดต้นทุนด้านวัสดุ พลังงาน และการขนส่ง โดยบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างเหมาะสมจะลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการจัดการโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์

  1. ใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา: การเลือกใช้วัสดุที่เบาแต่ยังคงคุณสมบัติในการปกป้องผลิตภัณฑ์จะช่วยลดต้นทุนด้านวัสดุ พลังงาน และการขนส่ง
  2. พัฒนาการออกแบบโครงสร้างและวัสดุให้เหมาะสม: การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์จะช่วยเพิ่มความทนทานและลดการสูญเสียในระหว่างการขนส่ง
  3. พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เข้มข้นมากขึ้น: สำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท การเพิ่มความเข้มข้นจะช่วยลดขนาดบรรจุภัณฑ์ ลดปริมาณการใช้งาน และลดค่าใช้จ่ายได้
  4. กำจัดบรรจุภัณฑ์ที่ไม่จำเป็น: ลดการใช้วัสดุที่ไม่มีประโยชน์ เช่น การลดการใช้บรรจุภัณฑ์ชั้นในหรือการตัดลดส่วนที่ไม่จำเป็น เพื่อประหยัดต้นทุนและลดขยะ
  5. ซื้อในจำนวนมากและนำไปใช้ในหลายสายผลิตภัณฑ์: การซื้อวัสดุในปริมาณมากจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วย และสามารถนำไปใช้งานในหลายสายผลิตภัณฑ์ได้อย่างคุ้มค่า

การลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคจึงเป็นกลยุทธ์ที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในธุรกิจปัจจุบัน.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

Cap and Neck Closure (สเปกรูปแบบขนาดฝาเกลียวขวด)

การออกแบบและกำหนดสเปกของขนาดฝาและคอขวดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้งานกับโลชั่น แชมพู และของเหลวต่าง ๆ ที่ต้องการการปิดสนิทเพื่อป้องกันการรั่วซึมและคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ขนาดของฝาและคอขวดที่พบมาก ได้แก่ 28/400, 28/410 และ 28/415 โดยการเลือกใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและความต้องการของผลิตภัณฑ์

สเปกแบบขนาดฝาเกลียวขวด

การอธิบายส่วนประกอบของรหัสขนาด

  • ตัวเลขแรก (28): หมายถึงเส้นผ่านศูนย์กลางของฝาหรือคอขวดในหน่วยมิลลิเมตร ในตัวอย่างนี้ “28″ หมายถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 28 มม.
  • ตัวเลขที่สอง (400, 410, 415): หมายถึงรูปแบบของเกลียวหรือความสูงของคอขวด ซึ่งมีหน่วยเป็นเศษส่วนร้อยของนิ้ว ตัวเลขเหล่านี้ส่งผลต่อความลึกและการออกแบบของฝา เพื่อให้สามารถเข้ากับระบบปิดได้อย่างเหมาะสม

การเปรียบเทียบขนาดคอขวดที่แตกต่างกัน

28/400

  • ความสูงของเกลียว: ซีรีส์ 400 มีความสูงของคอสั้นที่สุดในสามแบบ และมีเกลียวเพียงหนึ่งรอบ
  • การใช้งาน: เหมาะกับฝาปิดแบบธรรมดา เช่น ฝาเกลียวที่ไม่ต้องการคอขวดสูงมาก เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปิดสนิทโดยไม่ต้องมีความลึกของเกลียวมาก

28/410

  • ความสูงของเกลียว: สูงกว่าซีรีส์ 400 เล็กน้อย ทำให้สามารถยึดเกลียวได้แน่นขึ้น
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับฝาปิดที่ใช้จ่าย เช่น หัวสเปรย์ หรือฝาดิสค์ที่ต้องการการปิดที่แน่นขึ้น โดยมักใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความสะดวกในการจ่ายของเหลว เช่น โลชั่นหรือหัวฉีดน้ำ

28/415

  • ความสูงของเกลียว: มีความสูงของคอขวดมากที่สุดในสามแบบและมีเกลียวมากขึ้น
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับระบบจ่ายของเหลวขนาดใหญ่ เช่น หัวสเปรย์แบบฉีด (trigger sprayers) ที่ต้องการความมั่นคงและความแน่นหนาในการปิดเพื่อลดโอกาสการรั่วซึม

ข้อแตกต่างหลักของขนาดฝาเกลียวขวด

ความแตกต่างของขนาดเหล่านี้คือความสูงของคอขวดและความลึกของเกลียว ซึ่งส่งผลต่อการยึดเกลียวและการปิดฝาให้สนิท การเลือกขนาดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์ ความต้องการในการปิดฝาอย่างแน่นหนา และการใช้งานในระบบจ่ายของเหลว

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

พลาสติกคืออะไร

พลาสติกได้กลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวันของเรามาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ตั้งแต่การใช้ในผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เช่น เข็มขัดนิรภัย หรือหน้าต่างในร้านอาหารไดรฟ์ทรู ไปจนถึงการปรากฏในวัฒนธรรมป๊อปต่างๆ อย่างไรก็ตาม หลายคนยังคงสับสนเกี่ยวกับคำจำกัดความของพลาสติกที่แท้จริง พลาสติกถูกพัฒนาขึ้นมาเล็กน้อยกว่าหนึ่งศตวรรษ และเริ่มมีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อมันกลายเป็นวัสดุทดแทนที่มีคุณค่าเมื่อวัสดุดั้งเดิมขาดแคลน จากนั้นในช่วงทศวรรษที่ 1950 และ 1960 พลาสติกได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก

ขวดใส่แอลกอฮอล์

พื้นฐานของพลาสติก

พลาสติกถูกสร้างขึ้นจากโครงสร้างของโมเลกุลที่เรียกว่า “โพลิเมอร์” ซึ่งเกิดจากการเชื่อมต่อของโมโนเมอร์ซ้ำๆ กันเป็นสายโซ่ยาว โดยชื่อของพลาสติกหลายชนิดมักจะเริ่มต้นด้วยคำว่า “โพลี” เช่น โพลิเอทิลีน โพลิสไตรีน และโพลิโพรพิลีน เพราะมันประกอบด้วยโพลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น โพลิเอทิลีนประกอบด้วยโมโนเมอร์ของเอทิลีนที่ต่อกันเป็นสายเหมือนลูกปัดในสร้อยคอ โพลิเมอร์เหล่านี้อาจประกอบด้วยธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจน หรืออาจมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น ออกซิเจน ไนโตรเจน ซัลเฟอร์ คลอรีน ฟลูออรีน ฟอสฟอรัส หรือซิลิกอน ทั้งนี้ทำให้พลาสติกมีความหลากหลายในโครงสร้างและการใช้งาน

กระบวนการผลิตพลาสติก

พลาสติกเริ่มต้นกระบวนการผลิตที่โรงกลั่นหรือโรงงานเคมี ซึ่งวัตถุดิบจะถูกเปลี่ยนเป็นโพลิเมอร์ โดยโพลิเมอร์ส่วนใหญ่จะถูกทำให้เป็นเม็ดเล็ก ๆ เพื่อความสะดวกในการขนส่งไปยังผู้ผลิตสินค้าและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกหลากหลายประเภท เช่น บรรจุภัณฑ์ขวดพลาสติก ถุงพลาสติก และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอื่น ๆ อุตสาหกรรมพลาสติกเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก โดยมีการสร้างรายได้มหาศาลและการจ้างงานในหลายประเทศทั่วโลก บริษัทผู้ผลิตพลาสติกจำนวนมากยังปฏิบัติตามมาตรการที่เข้มงวดในการจัดการและการผลิตอย่างปลอดภัยและยั่งยืน

พลาสติกชีวภาพ: ทางเลือกใหม่ของวัสดุที่ยั่งยืน

พลาสติกชีวภาพกำลังกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในยุคที่มีความกังวลเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรที่จำกัดอย่างก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน พลาสติกชีวภาพผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากพืช เช่น ข้าวโพดและอ้อย พลาสติกยุคแรก ๆ อย่างเซลโลเฟน ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งของพลาสติกชีวภาพที่ถูกพัฒนาขึ้น อย่างไรก็ตาม พลาสติกจากปิโตรเลียมที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากลับมาแทนที่ในยุคต่อมา

ถึงแม้ว่าพลาสติกชีวภาพจะให้ความหวังในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณสมบัติการย่อยสลายทางชีวภาพอยู่มาก พลาสติกชีวภาพบางชนิด เช่น PET ที่ทำจากพืช มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับพลาสติกจากปิโตรเลียม ซึ่งสามารถรีไซเคิลได้ แต่ไม่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ขณะที่พลาสติกชนิด PLA สามารถย่อยสลายในโรงงานทำปุ๋ยหมักเชิงพาณิชย์ได้ แต่ยังมีข้อจำกัดในการรีไซเคิลในหลายพื้นที่

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับพลาสติกและพลาสติกชีวภาพ รวมถึงกระบวนการผลิตและความยั่งยืนของวัสดุเหล่านี้ เป็นสิ่งสำคัญในยุคที่นวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมพลาสติกยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เราใช้งานพลาสติกอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ประเภทของบรรจุภัณฑ์

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวิธีการบรรจุและขนถ่าย

บรรจุภัณฑ์สามารถจัดแบ่งได้หลากหลายรูปแบบตามวิธีการบรรจุและขนถ่ายสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานในแต่ละลักษณะ ดังนี้:

  1. บรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วย (Individual Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดน้ำ กล่องใส่ครีม หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าชิ้นเดียว โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มมูลค่าทางการค้า อำนวยความสะดวกต่อการใช้งาน และป้องกันผลิตภัณฑ์จากการปนเปื้อนและความเสียหาย ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นผลิตภัณฑ์
  2. บรรจุภัณฑ์ชั้นใน (Inner Package)
    บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมบรรจุภัณฑ์เฉพาะหน่วยให้เป็นชุดเดียวกัน เช่น การบรรจุเครื่องดื่ม 12 ขวดในกล่องกระดาษ โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันสินค้าแต่ละหน่วยจากความชื้น แสงแดด และแรงกระแทกในระหว่างการขนส่ง เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการจัดเก็บและขนย้ายสินค้าในปริมาณมากขึ้น
  3. บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกสุด (Outer Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าในปริมาณมาก เช่น ลังไม้ หรือกล่องกระดาษลูกฟูกขนาดใหญ่ มีหน้าที่สำคัญในการปกป้องสินค้าในระหว่างการขนส่งจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระแทกหรือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

  1. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขายปลีก (Consumer Package)
    เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผู้บริโภคซื้อเพื่อนำไปใช้งาน อาจเป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นแรกหรือชั้นที่สองที่มีการออกแบบเพื่อความสะดวกในการจับจ่าย เช่น กล่องบรรจุสินค้า เครื่องดื่ม หรือบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยให้ใช้งานง่าย
  2. บรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง (Transportation Package)
    ใช้ในการรวบรวมบรรจุภัณฑ์ขายปลีกเข้าด้วยกันในหน่วยใหญ่ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูกที่บรรจุสินค้าเป็นชุด ช่วยให้สามารถจัดการขนส่งได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามความคงรูป

  1. บรรจุภัณฑ์รูปทรงแข็งตัว (Rigid Forms)
    ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง เช่น แก้ว เซรามิก ขวดพลาสติก และโลหะ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้มีความทนทานสูง สามารถป้องกันผลิตภัณฑ์จากสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างดี เช่น แรงกระแทกและการรั่วซึม
  2. บรรจุภัณฑ์รูปทรงกึ่งแข็งตัว (Semirigid Forms)
    ทำจากวัสดุเช่น พลาสติกอ่อน กระดาษแข็ง หรืออลูมิเนียมบาง มีความคงทนในระดับปานกลางและมักมีราคาย่อมเยา เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ต้องการความยืดหยุ่นบางส่วน
  3. บรรจุภัณฑ์รูปทรงยืดหยุ่น (Flexible Forms)
    ทำจากวัสดุที่อ่อนตัว เช่น แผ่นพลาสติกหรือฟิล์ม ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากมีน้ำหนักเบา ราคาถูก และสามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ถุงฟิล์มห่ออาหาร หรือถุงพลาสติกที่ใช้บรรจุของแห้ง

การแบ่งประเภทบรรจุภัณฑ์ตามวัสดุที่ใช้

บรรจุภัณฑ์สามารถจัดประเภทได้ตามวัสดุที่ใช้ เช่น พลาสติก แก้ว โลหะ หรือกระดาษ ซึ่งแต่ละวัสดุมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยการเลือกวัสดุขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ผลิตและความต้องการตลาด เช่น การป้องกันผลิตภัณฑ์ การจัดเก็บ การขนส่ง และการเพิ่มมูลค่าทางการตลาดของสินค้า

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและการออกแบบที่ดีจะช่วยให้สินค้าของคุณตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการปกป้องสินค้า การใช้งาน และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาด.

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

รายการตรวจสอบสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ

เคล็ดลับสำคัญในการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสินค้าและผู้บริโภค

การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าในตลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักออกแบบมืออาชีพหรือผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้า การเข้าใจคุณสมบัติที่พึงประสงค์และรายการตรวจสอบสำคัญช่วยให้มั่นใจได้ว่าบรรจุภัณฑ์จะตอบโจทย์ความต้องการของทั้งสินค้าและผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ เราขอแนะนำ “5 C Checklist” สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ดี ดังนี้:

ขวดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

  1. Contain and Protect – การบรรจุและปกป้อง
    บรรจุภัณฑ์ต้องสามารถปกป้องสินค้าจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง การจัดเก็บ และการใช้งานได้ดี เพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงอยู่ถึงมือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ควรคำนึงถึงการออกแบบที่เหมาะสมกับโลจิสติกส์ เช่น ขนาดที่พอดี น้ำหนักที่เหมาะสม และการจัดเก็บที่สะดวก
  2. Communication – การสื่อสาร
    บรรจุภัณฑ์ควรทำหน้าที่เป็นสื่อที่สื่อสารข้อมูลที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ เช่น ข้อมูลทางกฎหมาย (ส่วนผสม สารประกอบ) และข้อมูลทางการตลาดที่ช่วยสร้างความดึงดูดใจ เช่น จุดเด่นของสินค้า การสื่อสารบนบรรจุภัณฑ์ต้องชัดเจน น่าสนใจ และดึงดูดสายตาผู้บริโภค
  3. Convenience – ความสะดวกสบาย
    ความสะดวกสบายในการใช้งานบรรจุภัณฑ์มีผลต่อประสบการณ์ของผู้บริโภค บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย เช่น ขวดที่ถือสะดวก เทง่าย หรือกล่องที่พกพาสะดวก จะช่วยสร้างความพึงพอใจและกระตุ้นการซื้อซ้ำ
  4. Consumer Appeal – แรงดึงดูดใจของผู้บริโภค
    บรรจุภัณฑ์ที่ดึงดูดใจผู้บริโภคสามารถทำหน้าที่เป็น “นักขายเงียบ” ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย การออกแบบโครงสร้าง สี และข้อความบนบรรจุภัณฑ์ให้มีเอกลักษณ์จะช่วยสร้างความจดจำและกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคให้เลือกซื้อสินค้า
  5. Conserve Environment – การรักษาสิ่งแวดล้อม
    ในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจมากขึ้น การเลือกใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ หรือใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มคุณค่าและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่องความยั่งยืน

ตรวจสอบให้ครบถ้วนด้วย “5 C Checklist” นี้ จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการทั้งในด้านการใช้งาน การสร้างภาพลักษณ์ และความยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

กระปุก 500กรัม สีครีม และ สีเทา

กระปุก-500กรัม-สีครีม-และ-สีเทา

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

ขวดปั๊มพลาสติกราคาขายส่ง ราคาโรงงาน

ขวดปั๊ม

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขวดปั๊มพลาสติกราคาขายส่ง ราคาโรงงาน

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

10 กลยุทธ์สำหรับการบรรจุภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จ

ขวดโลชั่นชุดเดินทาง

10 กลยุทธ์เพื่อความสำเร็จในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่น

  1. ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่น (Make your product stand out)
    บรรจุภัณฑ์ที่ดีควรดึงดูดความสนใจทันทีที่ผู้บริโภคเห็นบนชั้นวาง การเลือกใช้สี การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และกราฟิกที่สะดุดตาจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง
  2. แตกต่างจากเดิม (Break with convention)
    การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใครทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่จดจำ ไม่ต้องกลัวที่จะฉีกแนวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เช่น รูปทรงแปลกใหม่ หรือการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  3. บรรจุภัณฑ์ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน (Products with purpose)
    บรรจุภัณฑ์ที่ดีควรสะท้อนคุณค่าและเป้าหมายของสินค้า เช่น การใช้วัสดุที่ยั่งยืน หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า
  4. เพิ่มบุคลิกภาพให้กับบรรจุภัณฑ์ (Add personality)
    บรรจุภัณฑ์สามารถสะท้อนตัวตนและบุคลิกของแบรนด์ได้ การใช้ข้อความสนุกสนานหรือกราฟิกที่โดดเด่นจะช่วยเพิ่มความน่าจดจำและสร้างการเชื่อมโยงระหว่างลูกค้ากับแบรนด์
  5. สร้างความรู้สึกที่ดีให้ผู้บริโภค (Feel-good factor)
    บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวก เช่น เปิดง่ายหรือพกพาสะดวก จะทำให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์ที่ดีและมีแนวโน้มกลับมาซื้อซ้ำ
  6. ดีไซน์เรียบง่ายและเข้าใจง่าย (Keep it simple)
    บรรจุภัณฑ์ที่มีดีไซน์เรียบง่ายและชัดเจนช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจข้อมูลสำคัญ เช่น ประโยชน์หรือวิธีใช้ของผลิตภัณฑ์ และช่วยให้การตัดสินใจซื้อรวดเร็วขึ้น
  7. การใช้ตราสินค้าแบบลำดับชั้น (Tiered branding)
    การแบ่งลำดับชั้นของตราสินค้าช่วยให้ผู้บริโภคแยกหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์ได้ง่าย เช่น ใช้สีหรือการออกแบบที่แตกต่างกันสำหรับสินค้าระดับพรีเมียมและมาตรฐาน เพื่อสร้างความชัดเจนและดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย
  8. คำนึงถึงต้นทุนในการขนส่ง (The cost of transport)
    การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เบาและทนทานช่วยลดต้นทุนการขนส่ง บรรจุภัณฑ์ที่จัดเรียงได้ง่ายและใช้พื้นที่น้อยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า
  9. ความสะดวกในการจัดเรียง (Speed to shelf)
    การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่จัดเรียงง่ายบนชั้นวางสินค้าช่วยเพิ่มความเร็วในการวางขาย ทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  10. ปกป้องผลิตภัณฑ์และป้องกันการปลอมแปลง (Protect yourself)
    บรรจุภัณฑ์ที่ดีต้องปกป้องผลิตภัณฑ์จากความเสียหายและการปลอมแปลง การใช้ซีลป้องกันหรือระบบป้องกันการเปิดช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

 

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

การทดสอบบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อความปลอดภัยในอุตสาหกรรมอาหาร

กระปุกโปรตีน-และ-อาหารเสริม

บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร มีบทบาทสำคัญในการปกป้องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รักษาความสด และป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม การทดสอบบรรจุภัณฑ์พลาสติกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภค

การทดสอบที่สำคัญของบรรจุภัณฑ์พลาสติกในอุตสาหกรรมอาหาร

  1. การทดสอบการซึมผ่านของสารเคมี:
    • บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอาหารต้องผ่านการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายซึมผ่านจากพลาสติกเข้าสู่อาหาร
    • ใช้การทดสอบจำลอง (Migration Testing) เพื่อประเมินการปล่อยของสารที่อาจเป็นอันตราย เช่น สารปนเปื้อนจากสีหรือสารเติมแต่งที่ใช้ในการผลิตพลาสติก
  2. การทดสอบความแข็งแรงและความทนทาน:
    • บรรจุภัณฑ์พลาสติกต้องผ่านการทดสอบความแข็งแรงเพื่อให้มั่นใจว่าไม่แตกหรือเสียหายง่ายเมื่อถูกบีบอัด หรือเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
    • การทดสอบความทนต่อแรงกระแทกช่วยป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่งและการเก็บรักษา
  3. การทดสอบการป้องกันการซึมผ่านของความชื้นและอากาศ:
    • บรรจุภัณฑ์ต้องสามารถป้องกันการซึมผ่านของความชื้น อากาศ และก๊าซต่าง ๆ ได้ เพื่อรักษาความสดใหม่ของอาหารและป้องกันการเกิดเชื้อรา หรือแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
    • ใช้การทดสอบค่าการซึมผ่านของไอน้ำ (Water Vapor Transmission Rate) และการซึมผ่านของออกซิเจน (Oxygen Transmission Rate)
  4. การทดสอบความทนทานต่ออุณหภูมิ:
    • บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับอาหารต้องทนต่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำได้ เช่น การอุ่นอาหารในไมโครเวฟ หรือการเก็บในช่องแช่แข็งโดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพหรือเคมีที่อาจเป็นอันตราย
  5. การทดสอบสารปนเปื้อน (Heavy Metal Testing):
    • ตรวจสอบการปนเปื้อนของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว หรือแคดเมียม ที่อาจมาจากกระบวนการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์ปลอดภัยและเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยอาหาร
  6. การทดสอบความปลอดภัยทางจุลชีววิทยา:
    • การตรวจสอบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในบรรจุภัณฑ์ เช่น แบคทีเรียหรือรา เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของอาหารและส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ใช้วัสดุพลาสติกทำบรรจุภัณฑ์

วัสดุพลาสติกสำหรับทำบรรจุภัณฑ์: บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

บรรจุภัณฑ์พลาสติก ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในด้านการออกแบบ น้ำหนักเบา ทนทาน และสามารถป้องกันการรั่วซึมของผลิตภัณฑ์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีวัสดุพลาสติกหลากหลายประเภทที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้:

วัสดุพลาสติกที่นิยมใช้ในบรรจุภัณฑ์

  1. PET (Polyethylene Terephthalate):
    • คุณสมบัติ: โปร่งใส น้ำหนักเบา และทนทานต่อแรงกระแทก
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม อาหาร และบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความโปร่งใสเพื่อแสดงเนื้อในของผลิตภัณฑ์
  2. HDPE (High-Density Polyethylene):
    • คุณสมบัติ: ทึบแสง ทนต่อสารเคมี และมีความแข็งแรง
    • การใช้งาน: เหมาะสำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรง เช่น ขวดนม ขวดน้ำมัน บรรจุภัณฑ์สารเคมี
      กระปุกทรงกระบอกขนาด-100กรัม
  3. PP (Polypropylene):
    • คุณสมบัติ: ทนความร้อนสูง ยืดหยุ่น และมีความโปร่งใสในระดับหนึ่ง
    • การใช้งาน: นิยมใช้ทำบรรจุภัณฑ์อาหารที่ต้องการทนความร้อน เช่น กล่องบรรจุอาหาร หรือถ้วยใส่อาหารในไมโครเวฟ
      ขวดซอสฝาแหลม-PP-ทนความร้อน
  4. PVC (Polyvinyl Chloride):
    • คุณสมบัติ: โปร่งใส ยืดหยุ่นได้ดี และสามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย
    • การใช้งาน: ใช้ในการผลิตฟิล์มห่ออาหารหรือขวดบรรจุของเหลวบางประเภท

      ขวดยาจีน

  5. LDPE (Low-Density Polyethylene):
    • คุณสมบัติ: นุ่ม ยืดหยุ่นสูง และทนต่อความชื้น
    • การใช้งาน: นิยมใช้ทำถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์ฟิล์มบาง และขวดบีบต่างๆ
      หลอดเจล 30cc
  6. PS (Polystyrene):
    • คุณสมบัติ: โปร่งแสง สามารถขึ้นรูปได้ง่าย
    • การใช้งาน: ใช้ทำถ้วยพลาสติก กล่องอาหาร และบรรจุภัณฑ์โฟม
      ฝาพลาสติก-สีบรอนซ์เงิน

ประโยชน์ของบรรจุภัณฑ์พลาสติก:

  • น้ำหนักเบา: ทำให้สะดวกในการขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
  • ทนทานและแข็งแรง: สามารถป้องกันการกระแทกและการเสียหายของผลิตภัณฑ์ได้ดี
  • ความหลากหลายในการออกแบบ: สามารถปรับแต่งรูปทรงและขนาดได้ตามความต้องการของลูกค้า
  • ราคาย่อมเยา: เมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ บรรจุภัณฑ์พลาสติกมักมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า
  • ป้องกันการรั่วซึมและความชื้น: ทำให้สามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายในได้ดี

ข้อควรพิจารณาในการเลือกบรรจุภัณฑ์พลาสติก:

  • การเลือกวัสดุพลาสติกที่เหมาะสมกับชนิดของผลิตภัณฑ์
  • ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาการใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือใช้พลาสติกชีวภาพที่ย่อยสลายได้

การใช้ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ในด้านการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์และความต้องการเฉพาะของแบรนด์ได้อย่างลงตัว

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

หัวปั๊มสำหรับขวดเซรามิค

หัวปั๊มคุณภาพสูงสำหรับขวดเซรามิค: หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

เรามี หัวปั๊มสำหรับขวดเซรามิค หลากหลายรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความสวยงามและเพิ่มความทนทานให้กับผลิตภัณฑ์ของคุณ หัวปั๊มที่เราจำหน่ายมีให้เลือกในหลากหลายวัสดุและดีไซน์ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้า เหมาะสำหรับขวดเซรามิคขนาดคอ 24 มม. และ 28 มม.

  • หัวปั๊มชุบเงินและทอง: มีให้เลือกทั้งแบบผิวด้านและแบบเงา เพิ่มความหรูหราและมีสไตล์ให้กับขวดเซรามิคของคุณ สร้างความโดดเด่นและเสริมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์
  • หัวปั๊มคออลูมิเนียม: แข็งแรง ทนทาน และเพิ่มความทันสมัยให้กับขวดเซรามิค ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ยังคงความโมเดิร์น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเรียบหรูและดูทันสมัย
  • หัวปั๊มสแตนเลส: ออกแบบมาเพื่อทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อม ให้การใช้งานที่ยาวนาน พร้อมเสริมความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ให้กับขวดเซรามิค
  • หัวปั๊มอัลลอย: ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงที่มีความทนทานต่อการสึกหรอ เหมาะสำหรับขวดเซรามิคที่ต้องการความคงทน และเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ให้กับบรรจุภัณฑ์

หัวปั๊มทุกรุ่นของเราถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานร่วมกับขวดเซรามิค ทั้งด้านความสวยงาม ความคงทน และการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

หัวปั๊มสำหรับขวดเซรามิค

หัวปั๊มสำหรับขวดเซรามิค หลากหลายดีไซน์

ปั๊มสแตนเลส สบู่ โลชั่น

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวปั๊มสำหรับขวดเซรามิค

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

 

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

พลาสติกจากข้าวโพด

พลาสติก: วัสดุสารพัดประโยชน์กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อม

พลาสติกเป็นวัสดุที่คุ้นเคยและพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน พลาสติกถูกใช้ในหลากหลายกิจกรรมเนื่องจากคุณสมบัติที่ทนทานและความหลากหลายของการใช้งาน พลาสติกประกอบขึ้นจากสารโพลิเมอร์ (polymer) ซึ่งเกิดจากการเรียงต่อกันของมอนอเมอร์ (monomer) เช่น สไตรีน (styrene) ที่นำไปผลิตเป็นพอลิสไตรีน (polystyrene) ใช้ทำโฟมหรือแก้วกาแฟ, เอทิลีนและโพรพิลีน (ethylene, propylene) สำหรับถุงพลาสติก, ไวนิลคลอไรด์ (vinyl chloride) สำหรับท่อประปา และเอทิลีนเทเรฟทาเลต (ethylene terephthalate) สำหรับขวด PET แม้พลาสติกจะมีประโยชน์หลากหลาย แต่ก็สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เนื่องจากพลาสติกส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ หรือใช้เวลานานในการย่อยสลาย

ไบโอพลาสติก-Biodegradable-Plastic (1)

วัสดุพลาสติกจากแหล่งธรรมชาติ: โอกาสใหม่ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน

เนื่องจากพลาสติกดั้งเดิมทำมาจากปิโตรเลียมซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดและราคาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาวัสดุทดแทนพลาสติกจากแหล่งธรรมชาติ จึงกลายเป็นแนวทางสำคัญในการลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หนึ่งในวัสดุทางเลือกที่มีศักยภาพคือ พอลิแล็คติก แอสิด (Polylactic Acid – PLA) ซึ่งผลิตจากวัตถุดิบเกษตร เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง และอ้อย PLA เป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ทางธรรมชาติและมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับพลาสติกทั่วไป ทำให้ PLA เป็นที่นิยมในการใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

พอลิแล็คติก แอสิด (PLA): พลาสติกจากข้าวโพดเพื่อสิ่งแวดล้อม

พอลิแล็คติก แอสิด หรือ PLA เป็นพลาสติกชีวภาพที่ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1932 โดยนักวิจัย W.H. Carothers จากบริษัท Dupont PLA ผลิตขึ้นจากแป้งและน้ำตาลในข้าวโพด ผ่านกระบวนการหมักและการสังเคราะห์เพื่อให้ได้พอลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติทนทาน และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ปัจจุบันมีบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่ผลิต PLA ในเชิงพาณิชย์ เช่น Cargill Dow ในสหรัฐอเมริกา และ Mitsui Chemical ในญี่ปุ่น PLA ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนและสามารถลดการพึ่งพาพลาสติกจากปิโตรเลียม

แม้ว่าพลาสติก PLA และพลาสติกชีวภาพอื่น ๆ จะยังคงมีข้อจำกัดบางประการ เช่น ต้นทุนการผลิตและความคงทนเทียบเท่าพลาสติกดั้งเดิม แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว การพัฒนาและการใช้วัสดุเหล่านี้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ถือเป็นโอกาสที่น่าจับตามองในอนาคต

Credit: vcharkarn.com/varticle/277

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

ปุ๋ยอินทรีย์ สารเคมี ขวดบรรจุภัณฑ์

ขวดบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูงสำหรับปุ๋ยอินทรีย์ สารเคมี ฯลฯ ผลิตจาก HDPE พร้อมฝาวัดปริมาณ

ขวดบรรจุภัณฑ์ของเราผลิตจาก HDPE (High-Density Polyethylene) ซึ่งเป็นพลาสติกคุณภาพสูงที่มีความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบรรจุ ปุ๋ยอินทรีย์ สารเคมี น้ำยาทำความสะอาด และของเหลวที่มีความเข้มข้น ช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานและปลอดภัย

ขวดเคมีเกษตรถ้วยตวง

คุณสมบัติเด่น ปุ๋ยอินทรีย์ สารเคมี ขวดบรรจุภัณฑ์:

  • วัสดุ HDPE ทนทานต่อสารเคมี: ป้องกันการรั่วซึมและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการบรรจุของเหลวและสารเคมีที่มีความเข้มข้น
  • มาพร้อมฝาวัดปริมาณ: ขวดบรรจุภัณฑ์มาพร้อมกับฝาวัดปริมาณ (Measuring Cup) ที่ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้น สามารถตวงปริมาณผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดการใช้งานที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้
  • ฝาปิดแน่นหนา: ป้องกันการรั่วซึมและรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ภายใน
  • ดีไซน์จับถนัดมือ: ออกแบบให้ใช้งานง่ายและสะดวกต่อการเทหรือบรรจุ

เหมาะสำหรับการใช้งานใน อุตสาหกรรมการเกษตร สารเคมี และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ขวด HDPE พร้อมฝาวัดปริมาณนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความปลอดภัยและมาตรฐานสูง

  ขวดบรรจุเคมี-ถ้วยตวง

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

สูตรและวิธีการทำแชมพูสระผมสมุนไพร

แชมพูสมุนไพร: วิธีทำและส่วนผสมจากธรรมชาติสำหรับการดูแลเส้นผม

หากคุณประสบปัญหาเส้นผมบาง รากผมไม่แข็งแรง ผมร่วงง่าย เป็นรังแค หรือคันศีรษะ แชมพูสมุนไพรอาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา แทนที่จะใช้แชมพูเคมีทั่วไปที่อาจมีส่วนผสมที่ไม่เหมาะสมกับเส้นผม ลองมาสร้างสรรค์แชมพูสมุนไพรที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ ปลอดภัย และสามารถปรับสูตรให้ตรงกับสภาพเส้นผมของคุณเองได้

สมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะ

  • มะกรูด: น้ำจากมะกรูดช่วยสลายไขมันและสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะ ทำให้ผมสะอาด มีความเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
  • มะคำดีควาย: ลดรังแคและรักษาอาการเชื้อราบนหนังศีรษะ มีคุณสมบัติช่วยให้เส้นผมแข็งแรง
  • ดอกอัญชัน: กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้รากผมแข็งแรง ลดการหลุดร่วง และเพิ่มการงอกของเส้นผม
  • ตะไคร้: ลดปัญหาผมแตกปลาย บรรเทาอาการคันและลดรังแค
  • ว่านหางจระเข้: เพิ่มความนุ่ม ชุ่มชื้นให้เส้นผม ช่วยให้ผมหวีง่ายและลดการระคายเคือง
  • ฟ้าทลายโจร: ลดการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียที่อาจทำให้เกิดอาการคันศีรษะและผมร่วง

MP77CM ขวดปั๊มครีมสีเขียวใสพร้อมโลโก้นูนบนขวด และ ปั๊มสีเขียวสลับดำ (1)

วิธีทำแชมพูสมุนไพร ส่วนผสมที่จำเป็น:

  • แชมพูออย (EMAL 28CT): 500 กรัม
  • ผงฟอง: 50 กรัม (ช่วยให้ฟองมาก)
  • ผงข้น: 125–150 กรัม (ช่วยให้น้ำยาสระผมข้น)
  • ลาโนลิน: 50 กรัม (ช่วยให้เส้นผมลื่นและนุ่ม)
  • น้ำสมุนไพร (น้ำใบหมี่สดหรือน้ำสมุนไพรที่ต้องการ): 1.5 กก.
  • น้ำจุลินทรีย์ผลไม้เปรี้ยว: 500 กรัม (เช่น มะกรูด มะเฟือง มะนาว)
  • เกลือ: 500 กรัม (เพิ่มความหนืด)
  • น้ำหอมกลิ่นตามชอบ: เล็กน้อย

ขั้นตอนการทำ:

  1. เตรียมน้ำใบหมี่สดเล็กน้อยตั้งไฟร้อน เติมลาโนลินลงไปจนละลาย จากนั้นผสมเกลือและน้ำจุลินทรีย์เปรี้ยว คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
  2. ในภาชนะใบใหญ่ ใส่น้ำใบหมี่สดที่เหลือ ใส่ผงฟองและคนให้ละลาย จากนั้นใส่แชมพูออยและคนให้เข้ากัน
  3. ค่อยๆ ใส่ผงข้นทีละน้อยจนส่วนผสมข้นตามต้องการ ใส่ส่วนผสมจากขั้นตอนแรกและคนให้เข้ากัน
  4. เติมน้ำหอมเล็กน้อย แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัว จึงบรรจุลงในขวดพร้อมใช้งาน

ขวดสบู่แชมพูสีเขียว 200ml 

ข้อควรรู้ในการใช้สมุนไพรแต่ละชนิด

  • น้ำดอกอัญชัน: ช่วยลดผมร่วงและเพิ่มการงอกของเส้นผม สีม่วงของดอกอัญชันสามารถทำให้แชมพูดูสวยงาม แต่จะค่อยๆ สลายไปเมื่อใช้
  • น้ำมะคำดีควาย: ช่วยลดรังแคและรักษาเชื้อรา ใช้โดยแช่และต้มผลมะคำดีควายแห้ง แล้วกรองน้ำมาใช้
  • ว่านหางจระเข้: บำรุงผมให้ชุ่มชื้นและนุ่มลื่น โดยใช้วุ้นใสจากใบหลังจากล้างยางออกจนหมด

การใช้แชมพูสมุนไพรไม่เพียงช่วยลดการใช้สารเคมี แต่ยังช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสุขภาพดีขึ้น คุณสามารถลองปรับสูตรตามความต้องการของเส้นผมและเพิ่มส่วนผสมธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว เพื่อสร้างสรรค์แชมพูที่เหมาะสมกับตัวคุณเอง

Credit: YesSpaThailand.com

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

นิปเปิ้ลให้น้ำสำหรับไก่กิน Nipple Drinker

การจัดการระบบนิปเปิ้ลให้น้ำในฟาร์มไก่: ปัจจัยสำคัญและวิธีดูแล

ในฟาร์มไก่ ระบบการจัดการน้ำดื่มเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของไก่ นิปเปิ้ลให้น้ำไก่ (Nipple Drinker) เป็นระบบให้น้ำที่นิยมใช้ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาความสะอาดของน้ำและลดการปนเปื้อน อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ต้องการการบริหารจัดการและดูแลอย่างละเอียดเพื่อให้ไก่ได้รับน้ำที่มีคุณภาพเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโต

นิปเปิ้ลให้น้ำไก่

ปัจจัยสำคัญในการจัดการนิปเปิ้ลให้น้ำในฟาร์มไก่

  1. การป้องกันการปนเปื้อน: ควรใช้ปั๊มน้ำและท่อส่งน้ำที่มีขนาดเหมาะสมเพื่อให้แรงดันน้ำคงที่ และป้องกันไม่ให้ดิน ฝุ่น หรือน้ำฝนเข้ามาปนเปื้อนในระบบน้ำ
  2. การกรองน้ำ: การติดตั้งระบบกรองที่ละเอียด (60 ไมครอนขึ้นไป) ช่วยป้องกันตะกอนและลดการเกิดไบโอฟิล์ม (Biofilm) ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
  3. มิเตอร์วัดปริมาณน้ำ: การติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำช่วยให้ตรวจสอบการบริโภคน้ำของไก่ได้ หากมีความผิดปกติอาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพของไก่
  4. การให้ยาในน้ำ: การใช้ระบบปั๊มแรงดันสูง (Dosing Pump) ในการกระจายยาลงในน้ำ ช่วยลดความเสี่ยงการปนเปื้อนและการสะสมเชื้อโรคจากการใช้ถังใหญ่
  5. จำนวนหัวนิปเปิ้ล: ควรจัดให้จำนวนหัวนิปเปิ้ลเพียงพอต่อจำนวนไก่ในฟาร์ม และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้ดี ไม่มีการรั่วซึม เพื่อให้ไก่ได้รับน้ำอย่างต่อเนื่อง

การบำรุงรักษาระบบนิปเปิ้ลให้น้ำ

ระบบนิปเปิ้ลต้องได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดปัญหาไบโอฟิล์มและการอุดตัน โดยการล้างทำความสะอาดท่อและหัวนิปเปิ้ลเป็นประจำจะช่วยรักษาคุณภาพน้ำและป้องกันการทำงานผิดปกติ

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์นิปเปิ้ลไก่คุณภาพสูง

  • นิปเปิ้ลให้น้ำไก่ ผลิตจากพลาสติก POM ที่ทนทานสูง ทนกรด ด่าง และน้ำยาฆ่าเชื้อได้ดี
  • โครงสร้างระบบลูกปืนและสลักล่างทำจากสแตนเลส ทนทาน ไม่เป็นสนิม
  • ติดตั้งง่ายและใช้งานสะดวก ด้วยระบบ O-Ring ป้องกันการรั่วซึมโดยไม่ต้องพันเทป
  • ออกแบบตามความต้องการของฟาร์ม สามารถกำหนดอัตราการไหลของน้ำได้ตามต้องการ

การจัดการนิปเปิ้ลให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ฟาร์มไก่สามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้ดี ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และส่งเสริมสุขภาพของไก่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก

Credit: Traininteractive (www.youtube.com/watch?v=wtbNRyzogpE)

การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติก: กระบวนการและเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต

กระบวนการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกเป็นขั้นตอนสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท การขึ้นรูปพลาสติกมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะของผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติที่ต้องการ โดยต่อไปนี้คือวิธีการขึ้นรูปพลาสติกที่สำคัญและเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการ:

การขึ้นรูปด้วยเครื่องฉีดพลาสติก (Injection Molding)

การฉีดพลาสติกเข้าแม่พิมพ์ เป็นกระบวนการที่แพร่หลายในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกในอุตสาหกรรม ใช้พลาสติกหลอมเหลวฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูง เพื่อสร้างชิ้นงานที่มีความละเอียด ซับซ้อน และตรงตามแบบที่ต้องการ วิธีนี้เหมาะสำหรับการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น ของเล่น ขวดบรรจุภัณฑ์ และชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ

ส่วนประกอบสำคัญของเครื่องฉีดพลาสติก 

  1. ฮอปเปอร์ (Hopper): กรวยขนาดใหญ่สำหรับบรรจุเม็ดพลาสติกและสารเติมแต่ง เพื่อส่งเข้าสู่เครื่องฉีดพลาสติก
  2. กระบอกฉีดและสกรู (Injector and Screw): หน่วยที่ทำหน้าที่หลอมเหลวพลาสติกและสร้างแรงดันเพื่อฉีดพลาสติกเข้าสู่แม่พิมพ์
  3. หัวฉีด (Nozzle): อุปกรณ์ที่นำพลาสติกหลอมเหลวจากกระบอกฉีดเข้าสู่ช่องว่างในแม่พิมพ์
  4. แม่พิมพ์ (Mold): โครงสร้างที่ออกแบบให้เป็นรูปร่างของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมักประกอบด้วยสองส่วนเพื่อให้สามารถถอดชิ้นงานออกได้ง่าย
  5. หน่วยหนีบยึดแม่พิมพ์ (Hydraulic Clamp Unit): กลไกที่ทำหน้าที่เปิด-ปิดแม่พิมพ์ พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิทั้งความร้อนและความเย็น เพื่อให้แม่พิมพ์อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการขึ้นรูปพลาสติก

ประโยชน์ของการฉีดพลาสติกในอุตสาหกรรม

  • ความละเอียดสูง: สามารถผลิตชิ้นงานที่มีรายละเอียดซับซ้อนได้ดี
  • ความเร็วในการผลิต: เครื่องฉีดพลาสติกสามารถผลิตชิ้นงานจำนวนมากได้ในเวลาอันรวดเร็ว
  • คุณภาพคงที่: ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความสม่ำเสมอและคงทนสูง

การฉีดพลาสติกถือเป็นกระบวนการหลักในอุตสาหกรรมพลาสติกที่มีความสำคัญ ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมและส่งเสริมความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

บรรจุภัณฑ์สลายตัว (Biodegradable Packaging)

ปัจจุบัน ปัญหาขยะพลาสติกเป็นสาเหตุหนึ่งของมลภาวะสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง การใช้ ไบโอพลาสติก (Biodegradable Plastic) หรือพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ กลายเป็นแนวทางสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ ไบโอพลาสติกทำจากวัสดุชีวภาพ เช่น แป้งข้าวโพด และสามารถย่อยสลายได้เมื่อสัมผัสกับสภาวะที่เหมาะสม จึงไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ไบโอพลาสติก-Biodegradable-Plastic (1)

บรรจุภัณฑ์สลายตัว ตัวอย่างวัสดุไบโอพลาสติกที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์

  1. Oxo-Biodegradable Plastic (Enhanced PP): พลาสติกที่เสริมการย่อยสลายด้วยสารเติมแต่ง ทำให้พลาสติกแตกตัวได้เร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับแสงแดดและออกซิเจน
  2. PP Copolymer + Bioplastic: ผสมระหว่างโพลีโพรพิลีนโคพอลิเมอร์กับไบโอพลาสติก ให้ความยืดหยุ่นและความแข็งแรง และสามารถย่อยสลายได้เมื่อหมดอายุการใช้งาน
  3. 100% Bioplastic: ผลิตจากไบโอพลาสติกแท้จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น แป้งข้าวโพด สามารถย่อยสลายได้โดยไม่ทิ้งสารเคมีอันตราย
  4. Recyclable PP Plastic: พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ เป็นอีกทางเลือกในการลดขยะและนำกลับมาใช้ใหม่

ประโยชน์ของการใช้ไบโอพลาสติกในบรรจุภัณฑ์ การใช้ไบโอพลาสติกช่วยลดปัญหาขยะและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากพลาสติกสามารถย่อยสลายได้เร็วกว่าและมาจากทรัพยากรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน และลดการใช้พลังงานในการผลิตและขนส่ง

ช้อนตักขนม ไบโอพลาสติก

อนาคตของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถทดแทนพลาสติกทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อทำให้ต้นทุนต่ำลง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนได้มากขึ้น

การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติกจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการบริโภคที่ยั่งยืน และส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →

โรงงานฉีดพลาสติก

โรงงานฉีดพลาสติกประสบการณ์มากกว่า 30 ปี

เราเป็นโรงงานฉีดพลาสติกครบวงจร โรงงานของเรามีความเชี่ยวชาญเฉพาะในด้านงานฉีดพลาสติก และมีทีมงานเกี่ยวกับงานฉีดพลาสติก ที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี มีเครื่องจักรทันสมัย ครอบคลุมงานตลอดทั้งกระบวนการ เริ่มจาก การขึ้นรูปต้นแบบ ออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ฉีดพลาสติก ฉีดพลาสติก และสกรีนลวดลายต่าง ๆ บนเนื้อพลาสติก ทางโรงงานฉีดพลาสติกเราควบคุมกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ท่านลูกค้ามั่นใจได้ว่า สินค้าของท่านจะได้คุณภาพสูงสุด ระยะส่งมอบรวดเร็ว และต้นทุนต่ำสุด

Showroom2

โรงงานฉีดพลาสติกยินดีให้คำปรึกษา

โรงงานฉีดพลาสติกของเราพร้อมบริการและยินดีให้คำปรึกษาในการผลิตชิ้นงานพลาสติก ทั้งในแง่ของการเลือกใช้ชนิดของพลาสติก ที่มีอยู่มากมายและมีคุณสมบัติหลากหลาย รวมถึงให้คำแนะนำท่านในการลดต้นทุน พร้อมสู้กับคู่แข่งทางการค้าของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ

กระปุกอาหารเสริม-ฝาสี

แผนที่โรงงานฉีดพลาสติก

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงงานฉีดพลาสติก

บริษัท เค.วี.เจ. ยูเนี่ยน จำกัด
70 ถนนพระรามที่ 3
แขวงบางคอแหลม
เขตบางคอแหลม
กรุงเทพฯ 10120

T: 02 289 1996
F: 02 292 1223
E: [email protected]
LINE: @tul2062b

Add Line

Posted in: ผลิตภัณฑ์และบริการ

Leave a Comment (0) →

เกี่ยวกับขวดพลาสติก

ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับขวดพลาสติก

ขวดพลาสติก ขวด สร้างขึ้นมาจาก พลาสติก ขวดพลาสติกมักจะใช้ในการจัดเก็บของเหลวเช่น น้ำน้ำอัดลมน้ำมัน น้ำมันปรุงอาหาร ยา แชมพู นม และ หมึก ขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กมากขวดตัวอย่างขนาดใหญ่

ขวดพลาสติกถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในปี 1947 แต่ยังคงค่อนข้างแพงจนถึงต้นปี 1960 เมื่อเอทิลีนความหนาแน่นสูงได้รับการแนะนำ พวกเขาได้อย่างรวดเร็วกลายเป็นที่นิยมกับทั้งผู้ผลิตและลูกค้าเนื่องจากลักษณะที่มีน้ำหนักเบาของพวกเขาค่อนข้างต่ำและต้นทุนการผลิตเมื่อเทียบกับ แก้ว ขวด . ยกเว้นไวน์และเบียร์ อุตสาหกรรมอาหาร ได้เปลี่ยนเกือบหมดแก้วกับขวดพลาสติก

ขวดบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

การผลิตขวดพลาสติก

ขวดพลาสติกที่เกิดขึ้นโดยใช้ความหลากหลายของเทคนิค ทางเลือกของวัสดุที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้

  • เอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) เป็นเม็ดพลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับขวดพลาสติก วัสดุนี้จะประหยัดทนต่อผลกระทบและอุปสรรคให้ความชุ่มชื้นดีHDPE เข้ากันได้กับหลากหลายของผลิตภัณฑ์รวมถึงกรดและ caustics แต่ไม่ได้เข้ากันได้กับ ตัวทำละลาย . มันจะได้รับการอนุมัติในองค์การอาหารและยาเกรดอาหาร HDPE โปร่งแสงเป็นธรรมชาติและมีความยืดหยุ่น นอกจากนี้สีจะทำให้กำลังการผลิต HDPE ทึบแสงแม้ว่าจะไม่มันวาว HDPE ยืมตัวเองได้อย่างง่ายดายเพื่อการตกแต่งหน้าจอไหม ในขณะที่ HDPE ให้การป้องกันที่ดีที่อุณหภูมิแช่แข็งด้านล่างมันไม่สามารถใช้กับผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปกว่า 160 ° F (71 ° C) หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้สุญญากาศ (สูญญากาศ) ประทับตรา
  • เอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (LDPE) จะคล้ายกับการผลิต HDPE ในองค์ประกอบ มันเป็นน้อยเข้มงวดและโดยทั่วไปน้อยกว่าที่ทนทานทางเคมี HDPE แต่โปร่งแสงมากขึ้น LDPE ใช้งานเป็นหลักสำหรับการใช้งานบีบ LDPE อย่างมีนัยสำคัญมีราคาแพงกว่า HDPE
  • Polyethylene Terephthalate (PET PETE หรือ โพลีเอสเตอร์ ) มักจะถูกใช้สำหรับเครื่องดื่มอัดลมขวดน้ำและผลิตภัณฑ์อาหารจำนวนมาก PET ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดีมากและคุณสมบัติอุปสรรคน้ำมันหอมระเหยทนต่อสารเคมีที่ดีโดยทั่วไป (แม้ว่า acetones และคีโตนจะโจมตี PET) และระดับสูงของความทนต่อแรงกระแทกและแรงดึง กระบวนการ orienting ทำหน้าที่ในการปรับปรุงคุณสมบัติของก๊าซและอุปสรรคความชื้นและทนแรงกระแทก วัสดุนี้ไม่ได้ให้ความต้านทานต่ออุณหภูมิที่สูงมากการใช้งานสูงสุด อุณหภูมิ. 200 ° F (93 ° C)
  • วัสดุ Polyvinyl Chloride (PVC) เป็นที่ชัดเจนตามธรรมชาติมีความต้านทานที่ดีมากที่จะน้ำมันและมีการส่งผ่านออกซิเจนต่ำมาก มันมีอุปสรรคที่ดีในการปล่อยก๊าซมากที่สุดและต้านทานผลกระทบต่อการลดลงยังดีมาก สารนี้เป็นสารทนสารเคมี แต่มันก็เป็นความเสี่ยงที่จะตัวทำละลาย พีวีซีเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับน้ำมันสลัดน้ำมันแร่และน้ำส้มสายชู นอกจากนี้ยังเป็นที่ใช้กันทั่วไปสำหรับแชมพูและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พีวีซีจัดแสดงนิทรรศการความต้านทานต่ำที่มีอุณหภูมิสูงและจะบิดเบือนที่ 160 ° F (71 ° C) ทำให้มันเข้ากันไม่ได้กับผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยความร้อน มันได้บรรลุความประพฤติไม่ดีในปีที่ผ่านมาเนื่องจากความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น
  • โพรพิลีน (PP) ถูกนำมาใช้เป็นหลักสำหรับขวดและฝาปิดและมีแพคเกจที่เข้มงวดกับอุปสรรคความชื้นที่ดีเยี่ยม ข้อดีอย่างหนึ่งที่สำคัญของโพรพิลีนเป็นเสถียรภาพที่อุณหภูมิสูงได้ถึง 220 ° F (104 ° C) โพรพิลีนเป็นหม้อนึ่งฆ่าเชื้อและมีศักยภาพในการฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำ ความเข้ากันได้ของ PP มีอุณหภูมิสูงบรรจุเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการใช้งานด้วยผลิตภัณฑ์ที่เติมร้อน PP มีความต้านทานต่อสารเคมีที่ดี แต่ให้ทนต่อแรงกระแทกไม่ดีในอุณหภูมิที่เย็น
  • สไตรีน (PS) ที่มีความคมชัดที่ยอดเยี่ยมและความมั่นคงในราคาที่ประหยัด เป็นที่นิยมใช้กับผลิตภัณฑ์แห้งรวมวิตามินเยลลี่ปิโตรเลียมและเครื่องเทศ สไตรีนไม่ได้ให้ความสามารถในการป้องกันที่ดีและการจัดแสดงนิทรรศการความต้านทานผลกระทบต่อคนยากจน
  • พลาสติกชีวภาพ – โครงสร้างโพลิเมอร์ขึ้นอยู่กับวัสดุชีวภาพการประมวลผลมากกว่า ปิโตรเคมี .

Posted in: Knowledge

Leave a Comment (0) →
Page 1 of 3 123